คำแนะนำสำหรับครอบครัว | ชีวิตคู่
วิธีจัดการกับความหึงหวงในชีวิตคู่
ชีวิตคู่จะมีความสุขไม่ได้เลยถ้ามีแต่ความสงสัยและไม่ไว้ใจกัน แล้วถ้าคุณชอบหึงหวงโดยไม่มีเหตุผลล่ะจะทำยังไง?
ในบทความนี้
หึงหวงหมายความว่ายังไง?
คำว่า “หึงหวง” ในบทความนี้หมายถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อเราคิดว่ามีใครมาสนใจคู่ของเราเป็นพิเศษ หรือคู่ของเราไปสนใจใครเป็นพิเศษจนทำให้รู้สึกว่ากำลังจะถูกนอกใจ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เป็นเรื่องปกติที่เราจะรู้สึกหึงหวง เนื่องจากในชีวิตคู่ สามีภรรยาเป็นคนที่ใกล้ชิดกันที่สุด พวกเขาควรช่วยกันปกป้องความสัมพันธ์ในชีวิตคู่เอาไว้
คำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล “พวกเขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นคนคนเดียวกัน . . . สิ่งที่พระเจ้าผูกไว้คู่กันแล้ว อย่าให้มนุษย์ทำให้แยกจากกันเลย”—มัทธิว 19:6
“ถ้าคุณรู้สึกว่ากำลังมีคนมายุ่งกับคู่ของคุณ ความหึงหวงก็อาจเป็นเหมือนสัญญาณที่เตือนให้คุณรู้ถึงอันตรายและลงมือทำบางอย่างเพื่อแก้ไข”—เบนจามิน
บางครั้งเราอาจหึงเกินเหตุ ซึ่งเกิดจากความระแวงและกลัวโดยไม่มีเหตุผล แต่ความรักแท้จะช่วยเราไม่ให้หึงหวงโดยไร้เหตุผลแบบนี้ (1 โครินธ์ 13:4, 7) ดร. โรเบิร์ต แอล. ลีฮี เขียนว่า “การกระทำที่เกิดจากความหึงหวงโดยไม่มีเหตุผลอาจทำให้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองแย่ลง” a
อะไรทำให้หึงหวงโดยไม่มีเหตุผล?
สาเหตุที่คุณมักจะหึงหวงโดยไม่มีเหตุผล อาจเป็นเพราะในอดีตคุณเคยถูกนอกใจ หรือพ่อแม่ของคุณแยกทางกันเพราะอีกฝ่ายไม่ซื่อสัตย์ คุณเลยกลัวว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับชีวิตคู่ของคุณด้วย
“ตอนที่ฉันยังเด็ก พ่อนอกใจแม่ นี่เลยทำให้ฉันรู้สึกยากที่จะเชื่อใจคนอื่น และบางครั้งมันก็ยากสำหรับฉันที่จะเชื่อใจสามีด้วย”—เมลิสซา
สาเหตุอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าคุณเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง อาจเป็นไปได้ที่คุณจะรู้สึกระแวงหรือกังวลว่าจะมีมือที่สามเข้ามาในชีวิตคู่ของคุณ คุณอาจถึงกับบอกตัวเองว่า สักวันหนึ่งคู่ของคุณจะทิ้งคุณไปหาคนใหม่แน่ ๆ ถ้าเขามีโอกาส
“สามีของฉันถูกขอให้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่งงานของเพื่อน นี่หมายความว่าเขาจะต้องเดินคู่กับเพื่อนเจ้าสาวหรือเต้นรำด้วยกัน ฉันรู้สึกไม่โอเค ก็เลยบอกให้เขาปฏิเสธไป”—นาโอมี
งานแต่งงานของแต่ละประเทศมีธรรมเนียมแตกต่างกันไป และคริสเตียนก็ต้องทำตามคำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล เป็นเรื่องเหมาะสมไหมที่นาโอมีจะหึงหวงสามีอย่างนั้น? พอกลับมาคิดถึงเรื่องนี้เธอก็รู้สึกว่าไม่มีเหตุผลเลยที่จะหึงหวง เธอบอกว่า “ตอนนั้นฉันรู้สึกไม่มั่นใจ ฉันคิดว่าสามีจะต้องเอาฉันไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนอื่น แต่จริง ๆ แล้วฉันแค่คิดไปเอง”
ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากอะไร ความหึงหวงโดยไม่มีเหตุผลอาจทำให้คุณระแวง คิดว่าคู่ของคุณจะไม่ซื่อสัตย์หรือถึงกับกล่าวหาว่าเขานอกใจ ความไม่ไว้ใจแบบนี้จะทำลายความสัมพันธ์ในชีวิตคู่และอาจถึงกับส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณด้วย
คำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล “ความอิจฉาริษยานั้นคือมะเร็งในกระดูก”—สุภาษิต 14:30, ฉบับอ่านเข้าใจง่าย
คุณจะจัดการกับความหึงหวงได้ยังไง?
พยายามไว้ใจเขา แทนที่จะมองหาสัญญาณที่แสดงว่าเขานอกใจคุณ ให้คิดดูว่าที่ผ่านมาคู่ของคุณทำอะไรบ้างที่ทำให้คุณสามารถไว้ใจเขาได้
“ฉันจะคิดถึงข้อดีของสามี ถ้าเขาสนใจใคร นั่นก็เพราะเขาเป็นห่วงคนนั้นจริง ๆ ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย ฉันต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าชีวิตคู่ของฉันไม่จำเป็นต้องล้มเหลวเหมือนกับพ่อแม่”—เมลิสซา
คำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล “ความรัก . . . เชื่ออยู่เสมอ”—1 โครินธ์ 13:4, 7
อย่ามั่นใจว่าตัวเองคิดถูก ดร. ลีฮี ที่พูดถึงก่อนหน้านี้เขียนว่า “เรามักจะเชื่อว่าความคิดของเราถูกต้องเสมอ และความมั่นใจแบบนี้ก็ทำให้เราเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่ความเชื่อของเราไม่ใช่หลักฐานที่จะพิสูจน์ว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องจริง” b
“ถ้าเราเจอสถานการณ์บางอย่าง แล้วก็คิดจินตนาการไปเองว่าต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็อาจทำให้เกิดปัญหาในชีวิตคู่โดยไม่จำเป็น”—นาดีน
คำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล “ให้คนอื่นเห็นว่าพวกคุณเป็นคนมีเหตุผล”—ฟีลิปปี 4:5
หันหน้ามาคุยกัน ไม่ว่าความหึงหวงของคุณจะเกิดจากอะไร ให้คุยกับคู่ของคุณและตกลงกันว่าควรทำตัวยังไงเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจ
“ตอนเปิดใจคุยกันให้คิดว่าคู่ของคุณไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณไม่สบายใจ และเขาก็อยากทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเหมือนกัน ให้คิดในแง่บวกไว้ก่อน บางทีคุณอาจอ่อนไหวเกินไปหรือคาดหมายมากเกินไป หรือคู่ของคุณอาจไม่รู้ตัวว่าเขาไม่ได้ใส่ใจคุณมากพอ”—เซียรา
คำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล “อย่าคิดถึงแต่ประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น แต่ให้คิดถึงประโยชน์ของคนอื่นด้วย”—1 โครินธ์ 10:24