ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ผลไม้สีเหลืองทองซึ่งมีประวัติน่าสนใจ

ผลไม้สีเหลืองทองซึ่งมีประวัติน่าสนใจ

ผลไม้​สี​เหลือง​ทอง​ซึ่ง​มี​ประวัติ​น่า​สนใจ

โดย​ผู้​เขียน​ตื่นเถิด! ใน​หมู่​เกาะ​ฟิจิ

ปี​นั้น​คือ​ปี 1789. เรือ​ที่​ไม่​มี​ประทุน​ขนาด 7 เมตร​ซึ่ง​มี​คน​อยู่​เต็ม​ลำ​ดู​เล็ก​กระจ้อยร่อย​เมื่อ​อยู่​กลาง​มหาสมุทร​อัน​ไพศาล. คน​ใน​เรือ​รู้สึก​อ่อน​เพลีย​ด้วย​ความ​หิว​และ​หมด​เรี่ยว​แรง​เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ต้อง​วิด​น้ำ​ออก​จาก​เรือ​อยู่​หลาย​วัน ขณะ​ที่​ต้อง​ฝ่า​คลื่น​และ​ลม​แรง​จัด​ใน​ทะเล. พวก​เขา​ต้อง​แล่น​เรือ​ไป​อีก​กว่า 5,000 กิโลเมตร​กลาง​มหาสมุทร​ที่​ยัง​ไม่​มี​การ​สำรวจ​ซึ่ง​มี​พืด​หิน​ปะการัง​ที่​เป็น​อันตราย​กระจัด​กระจาย​อยู่​ทั่ว. เสบียง​อาหาร​มี​น้อย​มาก แต่​ละ​คน​ได้​รับ​ขนมปัง (ขนมปัง​กรอบ​ใน​เรือ) ที่​ปัน​ส่วน​ให้​เพียง​วัน​ละ 30 กรัม​กับ​น้ำ​อีก​เล็ก​น้อย. โอกาส​ที่​คน​เหล่า​นี้​จะ​รอด​ชีวิต​ดู​เหมือน​มี​น้อย​จริง ๆ.

ภาย​ใน​ช่วง​สัปดาห์​เศษ ๆ ก่อน​หน้า​นี้ พวก​เขา​ถูก​ลูกเรือ​กบฏ​และ​ยึด​เรือ, ถูก​ปล่อย​ลอย​ไป​กับ​เรือ​ชูชีพ, และ​มี​คน​หนึ่ง​ใน​พวก​เขา​ถูก​ชาว​พื้นเมือง​ฆ่า​ตาย. พวก​เขา​ยัง​ต้อง​เผชิญ​พายุ​ฟ้า​คะนอง​อย่าง​รุนแรง​และ​หนี​รอด​มา​ได้​อย่าง​หวุดหวิด​จาก​ชาว​พื้นเมือง​ที่​ใช้​เรือ​แคนู​ไล่​ล่า​จาก​หมู่​เกาะ​ซึ่ง​เรียก​กัน​ใน​สมัย​นั้น​ว่า หมู่​เกาะ​มนุษย์​กิน​คน.

อะไร​ชัก​นำ​ชาย​เหล่า​นี้​ให้​เดิน​ทาง​มา​ยัง​ส่วน​ที่​อยู่​ไกล​โพ้น​และ​เต็ม​ไป​ด้วย​อันตราย​แห่ง​มหาสมุทร​แปซิฟิก​ใต้​นี้ ซึ่ง​อยู่​ไกล​แสน​ไกล​จาก​บ้าน​ของ​พวก​เขา​ใน​อังกฤษ ดินแดน​แห่ง​สวน​ผลไม้​และ​อุทยาน​ที่​ได้​รับ​การ​จัด​แต่ง​อย่าง​ดี? จุด​มุ่ง​หมาย​ใน​การ​ค้น​หา​ของ​พวก​เขา​นั้น​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ต้น​สาเก​ที่​สูง​ค่า. ขอ​ให้​เรา​ชี้​แจง​ว่า​ไม้​ยืน​ต้น​ที่​สวย​งาม​และ​ผล​ที่​มี​คุณค่า​ทาง​อาหาร​ของ​มัน​มี​บทบาท​สำคัญ​อย่าง​ไร​ใน​เรื่อง​ที่​กล่าว​มา​นี้​และ​ใน​การ​เดิน​ทาง​สำรวจ​ที่​เป็น​ตำนาน​ของ​ยุค​ก่อน​หน้า​นั้น.

บาง​ที​คุณ​อาจ​รู้​แล้ว​ว่า​คน​ใน​เรือ​ที่​กล่าว​ถึง​ข้าง​ต้น​ก็​คือ​ผู้​รอด​ชีวิต​จาก​การ​ยึด​อำนาจ​อัน​ฉาวโฉ่​บน​เรือ​เบานตี. เรือ​เบานตี ของ​กองทัพ​เรือ​อังกฤษ​ซึ่ง​หนัก 215 ตัน ภาย​ใต้​การ​บัญชา​การ​ของ​กัปตัน​วิลเลียม ไบล ได้​ออก​เดิน​ทาง​จาก​อังกฤษ​มุ่ง​หน้า​ไป​ยัง​เกาะ​ตาฮิตี. เมื่อ​ถึง​ที่​หมาย ไบล​ต้อง​นำ “ผู้​โดยสาร” ที่​แปลก​ประหลาด​มาก​กลุ่ม​หนึ่ง​ขึ้น​เรือ นั่น​คือ​ต้น​สาเก​อ่อน 1,000 ต้น. ต้น​ไม้​ที่​อยู่​ใน​กระถาง​เหล่า​นี้​มี​ศักยภาพ​ที่​จะ​ชดเชย​ค่า​ใช้​จ่าย​ใน​การ​เดิน​ทาง​ได้ ด้วย​การ​ให้​ผล​สี​เหลือง​ทอง​ที่​มี​คุณค่า​ทาง​โภชนาการ​เมื่อ​นำ​ไป​ปลูก​และ​เจริญ​เติบโต​ใน​บ้าน​ใหม่​ของ​มัน​ใน​อาณานิคม​ของ​อังกฤษ​แถบ​แคริบเบียน.

โครงการ​นี้​มี​การ​จัด​การ​โดย​อาศัย​คำ​แนะ​นำ​ที่​เซอร์​โจเซฟ แบงส์ ได้​ให้​แก่​รัฐบาล​อังกฤษ ซึ่ง​ใน​ตอน​นั้น​เป็น​ช่วง​ที่​กำลัง​รีบ​เร่ง​เสาะ​หา​แหล่ง​อาหาร​ใหม่​สำหรับ​ทาส​ที่​ทำ​งาน​ใน​ไร่​อ้อย. แบงส์ ซึ่ง​ใน​ตอน​นั้น​เป็น​ที่​ปรึกษา​ของ​สวน​พฤกษศาสตร์​คิว ใกล้​กับ​กรุง​ลอนดอน ประเทศ​อังกฤษ เคย​เดิน​ทาง​ไป​ใน​ฐานะ​นัก​พฤกษศาสตร์​พร้อม​กับ​กัปตัน​เจมส์ คุก ใน​ยุค​แรก ๆ ที่​เขา​เดิน​ทาง​สำรวจ​มหาสมุทร​แปซิฟิก. ทั้ง​แบงส์​และ​คุก​ได้​เล็ง​เห็น​ล่วง​หน้า​ถึง​ศักยภาพ​ของ​ต้น​สาเก.

แม้​ว่า​ไม่​ได้​เดิน​ทาง​ไป​กับ​ไบล​ด้วย​ตัว​เอง แต่​แบงส์​ก็​เป็น​ผู้​วาง​แผน​เรื่อง​การ​ดู​แล​ต้น​ไม้​บน​เรือ​ระหว่าง​การ​เดิน​ทะเล​อัน​ยาว​นาน โดย​ให้​ความ​สนใจ​เป็น​พิเศษ​ใน​เรื่อง​การ​ให้​น้ำ​จืด​ตาม​ที่​ต้น​ไม้​จำ​ต้อง​ได้​รับ. นัก​เขียน​บาง​คน​เชื่อ​ว่า การ​เอา​ใจ​ใส่​ต้น​ไม้​และ​รด​น้ำ​ให้​มัน​อย่าง​สิ้น​เปลือง โดย​ไม่​คำนึง​ถึง​สวัสดิภาพ​ของ​ลูกเรือ อาจ​กระตุ้น​ลูกเรือ​ที่​ไม่​พอ​ใจ​อยู่​แล้ว​ให้​ลุก​ฮือ​ขึ้น. เช้า​ตรู่​วัน​ที่ 28 เมษายน 1789 บริเวณ​นอก​ชายฝั่ง​เกาะ​ตองกา ไบล​กับ​ลูกเรือ​ที่​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​เขา 18 คน​ถูก​บังคับ​ด้วย​ดาบ​ให้​ลง​เรือ​เล็ก. ต้น​สาเก​ที่​เป็น “ผู้​โดยสาร” คง​ถูก​ทิ้ง​ลง​สู่​สุสาน​ใต้​น้ำ ท่ามกลาง​ความ​ยินดี​ของ​บรรดา​ผู้​ยึด​อำนาจ.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ไบล​ไม่​ใช่​คน​ที่​ท้อ​ถอย​ง่าย ๆ. เขา​เริ่ม​ต้น​กับ​สิ่ง​ที่​เรียก​กัน​ว่า “การ​เดิน​ทาง​ด้วย​เรือ​ที่​ไม่​มี​ประทุน​ซึ่ง​โด่งดัง​ที่​สุด​ใน​ประวัติศาสตร์​การ​เดิน​เรือ.” ใน​ช่วง​เจ็ด​สัปดาห์​แห่ง​ความ​ยาก​ลำบาก เขา​แล่น​เรือ​ลำ​เล็ก ๆ นี้​เป็น​ระยะ​ทาง​กว่า 5,800 กิโลเมตร​ไป​ทาง​ตะวัน​ตก​เฉียง​เหนือ​ผ่าน​กลาง​หมู่​เกาะ​ซึ่ง​ใน​ปัจจุบัน​เรียก​ว่า​เกาะ​ฟิจิ แล้ว​ขึ้น​ไป​ทาง​ชายฝั่ง​ตะวัน​ออก​ของ​นิว​ฮอลแลนด์ (ออสเตรเลีย) และ​ไป​ขึ้น​ฝั่ง​ที่​เกาะ​ติมอร์​ได้​อย่าง​ปลอด​ภัย.

เมื่อ​กลับ​ไป​ถึง​อังกฤษ ไบล​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​บัญชา​การ​เรือ​อีก​สอง​ลำ ซึ่ง​เขา​ใช้​เดิน​ทาง​กลับ​ไป​เกาะ​ตาฮิตี​เพื่อ​ขน​ต้น​สาเก. ครั้ง​นี้ ใน​ปี 1792 เขา​สามารถ​ขน “ผู้​โดยสาร” ใน​กระถาง​ประมาณ 700 ต้น​ไป​ยัง​หมู่​เกาะ​เซนต์​วินเซนต์​และ​เกาะ​จาเมกา​ใน​อินดิส​ตะวัน​ตก​ได้​สำเร็จ. จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ ต้น​สาเก​ก็​งอกงาม​อยู่​ที่​นั่น ราว​กับ​ผล​ทองคำ​ที่​มี​มงกุฎ​ใบ​ไม้​สี​เขียว​สด​ประดับ​อยู่.

แม้​ว่า​การ​เดิน​ทาง​ของ​ไบล​เป็น​ตำนาน​แห่ง​การ​รอด​ชีวิต​และ​การ​ค้น​พบ​จริง ๆ แต่​นั่น​ก็​เป็น​เพียง​เรื่อง​ราว​ตอน​หลัง ๆ ใน​ประวัติ​ของ​ต้น​สาเก. ถ้า​ต้น​สาเก​บอก​เล่า​เรื่อง​ราว​ได้ มัน​คง​จะ​เล่า​เรื่อง​ใน​สมัย​เมื่อ​หลาย​พัน​ปี​ก่อน​ให้​เรา​ฟัง เมื่อ​มัน​เดิน​ทาง​ไป​กับ​นัก​เดิน​เรือ​สมัย​โบราณ​ใน​การ​ค้น​พบ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่!

การ​เดิน​ทาง​ยุค​แรก​ของ​ต้น​สาเก

นัก​โบราณคดี​เชื่อ​ว่า​มี​การ​อพยพ​หลาย​ระลอก​ใน​มหาสมุทร​แปซิฟิก​ตะวัน​ตก ซึ่ง​ครั้ง​หลัง​สุด​นี้​เริ่ม​ประมาณ​ปี 1500 ก่อน​สากล​ศักราช. * เริ่ม​จาก​เอเชีย​ตะวัน​ออก​เฉียง​ใต้ ชาว​ลาปิตา​ใช้​เรือ​แคนู​แบบ​ตัว​เรือ​คู่​ขนาด​ใหญ่​เพื่อ​อพยพ​ผ่าน​ประเทศ​ต่าง ๆ ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​ใน​ปัจจุบัน​ว่า​อินโดนีเซีย, นิวกินี, นิวแคลิโดเนีย, วานูอาตู, และ​ฟิจิ และ​เลย​ไป​ถึง​แปซิฟิก​ตอน​กลาง. การ​เดิน​ทาง​เหล่า​นี้​รวม​ถึง​การ​เดิน​เรือ​ที่​น่า​ตื่น​ตา​ตื่น​ใจ​จริง ๆ เมื่อ​นึก​ถึง​การ​เดิน​ทาง​ระหว่าง​เกาะ​ที่​บาง​ช่วง​ต้อง​ล่อง​เรือ​เป็น​ระยะ​ทาง​หลาย​ร้อย​กิโลเมตร​อยู่​ใน​มหาสมุทร​อัน​กว้าง​ใหญ่.

เรือ​แคนู​แบบ​ตัว​เรือ​คู่​ของ​ชาว​ลาปิตา​สามารถ​บรรทุก​ผู้​คน​ได้​เป็น​จำนวน​มาก​รวม​ทั้ง​สัตว์​เลี้ยง, เสบียง​อาหาร, และ​เมล็ด​พันธุ์​ต่าง ๆ, กิ่ง​ตอน, และ​ต้น​ไม้​ใน​กระถาง. ขณะ​ที่​ชาว​ลาปิตา​กระจาย​ไป​ทั่ว​แปซิฟิก พวก​เขา​ได้​ค้น​พบ​และ​เข้า​ไป​อาศัย​อยู่​ตาม​หมู่​เกาะ​ต่าง ๆ แห่ง​เมลานีเซีย, โพลีนีเซีย, และ​ไมโครนีเซีย​ขึ้น​ไป​ทาง​เหนือ และ​นิวซีแลนด์​ลง​มา​ทาง​ใต้. พวก​เขา​แยก​ย้าย​กัน​ไป​ทั่ว​เหมือน​น้ำ​ขึ้น ใน​ที่​สุด​ก็​ไป​ถึง​เกาะ​อีสเตอร์​และ​เกาะ​ฮาวาย​ซึ่ง​อยู่​ไกล​จาก​บ้าน​เกิด. * ไม่​ว่า​พวก​เขา​เดิน​ทาง​ไป​ที่​ไหน “ผู้​โดยสาร” ที่​โดด​เด่น​ที่​สุด​เห็น​จะ​เป็น​ต้น​สาเก​ที่​แสน​ทรหด.

อาหาร​ที่​มี​คุณค่า​และ​มี​ประโยชน์​สารพัด

ปัจจุบัน​ใน​ฟิจิ เช่น​เดียว​กับ​ส่วน​อื่น ๆ อีก​หลาย​ส่วน​ของ​โลก สาเก​มี​คุณค่า​อย่าง​มาก​ใน​ฐานะ​อาหาร​ที่​มี​ราคา​ถูก​และ​มี​คุณประโยชน์. ต้น​ไม้​นี้​บาง​พันธุ์​ทนทาน​และ​มี​ผล​ดก บาง​ครั้ง​ให้​ผล​บ่อย​ถึง​ปี​ละ​สาม​ครั้ง​เป็น​เวลา​ถึง 50 ปี แม้​แต่​เมื่อ​สภาพ​อากาศ​ไม่​เอื้ออำนวย. ผล​ของ​มัน​มี​เนื้อ​คล้าย​ขนมปัง และ​พันธุ์​ต่าง ๆ ก็​มี​รสชาติ​ต่าง​กัน. โดย​ปกติ​แล้ว มี​การ​พรรณนา​ถึง​รสชาติ​ของ​มัน​ว่า​คล้าย​กับ​ขนมปัง​และ​มันฝรั่ง. อาจ​นำ​ผล​ของ​มัน​ไป​ต้ม, นึ่ง, อบ, หรือ​ทอด และ​มัก​นำ​ไป​ทำ​เป็น​ขนม​หวาน. อาจ​นำ​ไป​ตาก​ให้​แห้ง​และ​บด​เป็น​แป้ง​เพื่อ​นำ​ไป​ทำ​อาหาร และ​เมื่อ​คว้าน​เอา​เนื้อ​สาเก​ไป​หมัก ก็​เก็บ​ไว้​ได้​นาน​เป็น​ปี.

ใบ​ของ​มัน​สามารถ​นำ​ไป​ห่อ​อาหาร เช่น ปลา​หรือ​ไก่ เพื่อ​รักษา​ความ​ชุ่ม​ชื้น​และ​รสชาติ​ไว้​ระหว่าง​การ​ทำ​อาหาร. เมล็ด​ที่​ปอก​เปลือก​ออก​แล้ว​สามารถ​กิน​ได้ โดย​มี​รส​มัน​เหมือน​ถั่ว. * บาง​ครั้ง​มี​การ​เก็บ​ยาง​ของ​ต้น​สาเก​และ​เด็ก ๆ ก็​ชอบ​เคี้ยว​เล่น​เหมือน​เคี้ยว​หมากฝรั่ง. มัน​เป็น​ต้น​ไม้​ที่​ใช้​ได้​สารพัด​ประโยชน์​จริง ๆ! เป็น​เรื่อง​ไม่​ยาก​ที่​จะ​เข้าใจ​ว่า​ทำไม​ชาว​เกาะ​แปซิฟิก​บาง​กลุ่ม​จึง​รู้สึก​ชอบ​ต้น​สาเก​มาก​เป็น​พิเศษ.

เลดูอา ซึ่ง​อยู่​ที่​ฟิจิ บอก​เรา​ว่า การ​พูด​ถึง​ต้น​สาเก​ทำ​ให้​เธอ​หวน​คิด​ถึง​ความ​ทรง​จำ​ทั้ง​ที่​ดี​และ​ไม่​ดี​ใน​วัย​เด็ก. ครอบครัว​ของ​เธอ​มี​ต้น​สาเก​ใหญ่​ห้า​ต้น. เลดูอา​มี​หน้า​ที่​ต้อง​เก็บ​กวาด​ใบ​ของ​มัน​ที่​ลาน​บ้าน ซึ่ง​เป็น​งาน​ที่​เธอ​เกลียด. แต่​อีก​ด้าน​หนึ่ง บ่อย​ครั้ง​หลัง​เลิก​เรียน เธอ​กับ​พี่ ๆ น้อง ๆ จะ​เก็บ​ลูก​สาเก​และ​เอา​ไป​เร่​ขาย​ตาม​บ้าน​มาก​เท่า​ที่​จะ​สามารถ​เก็บ​ได้. แล้ว​พ่อ​แม่​ของ​เธอ​ก็​นำ​เงิน​ที่​ได้​ไป​ใช้​เป็น​ค่า​ใช้​จ่าย​สำหรับ​การ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​ของ​คริสเตียน เช่น ใช้​เป็น​ค่า​อาหาร, ค่า​รถ​โดยสาร, หรือ​ซื้อ​รอง​เท้า​ใหม่.

บาง​ที​คุณ​อาจ​อยู่​ใน​ดินแดน​หนึ่ง​ใน​หลาย ๆ ส่วน​ของ​โลก​ที่​กำลัง​มี​การ​ปลูก “ผู้​โดยสาร” จอม​เดิน​ทาง​ชนิด​นี้​อยู่ ซึ่ง​มี​ชื่อ​ที่​ฟัง​ดู​น่า​ประทับใจ​ว่า อาร์โตคาร์ปุส อัลตีลิส (Artocarpus altilis). ก่อน​หน้า​นี้ คุณ​อาจ​ไม่​ได้​คิด​ถึง​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ที่​น่า​มหัศจรรย์​นี้​ว่า​เป็น​ทรัพย์​อัน​มี​ค่า หรือ​แม้​แต่​เป็น​สิ่ง​ที่​มี​ประโยชน์​หรือ​สวย​งาม​เสีย​ด้วย​ซ้ำ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม หลาย​คน​ที่​อยู่​ใน​แถบ​แปซิฟิก​พบ​ว่า ชื่อ​สาเก​กระตุ้น​ให้​ระลึก​ถึง​ความ​สำเร็จ​ใน​การ​เดิน​เรือ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​และ​การ​เดิน​ทาง​สำรวจ ทั้ง​ของ​ชาว​ลาปิตา​และ​ของ​กัปตัน​ไบล.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 13 แน่นอน เวลา​ที่​กล่าว​ถึง​นี้​อาศัย​โบราณคดี​เพียง​อย่าง​เดียว​และ​ไม่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ลำดับ​เวลา​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล.

^ วรรค 14 นัก​ประวัติศาสตร์​บาง​คน​เชื่อ​ว่า นัก​เดิน​ทาง​แถบ​แปซิฟิก​เหล่า​นี้​บาง​คน​ไป​ไกล​ถึง​ชายฝั่ง​เปรู​ใน​อเมริกา​ใต้ และ​เชื่อ​ว่า​ใน​การ​เดิน​ทาง​กลับ พวก​เขา​ได้​นำ​มัน​เทศ​ของ​อเมริกา​ใต้​มา​ยัง​แถบ​แปซิฟิก. ถ้า​นี่​เป็น​ความ​จริง ก็​จะ​หมาย​ความ​ว่า​มัน​เทศ​เดิน​ทาง​ไป​ตาม​เกาะ​ต่าง ๆ ย้อน​ทิศ​ทาง​ของ​สาเก โดย​ใน​ที่​สุด มัน​เทศ​ก็​ไป​ถึง​เอเชีย​ตะวัน​ออก​เฉียง​ใต้ ซึ่ง​เป็น​ถิ่น​กำเนิด​ของ​สาเก.

^ วรรค 17 พันธุ์​ที่​มี​เมล็ด​เรียก​ว่า​ขนุน​สำปะลอ.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 25]

ต้น​ไม้​ที่​ให้​สิ่ง​ที่​มี​คุณค่า​หลาย​อย่าง

ต้น​สาเก​ที่​โต​เต็ม​ที่​แล้ว​เป็น​ต้น​ไม้​ไม่​ผลัด​ใบ​ที่​สวย​สด​งดงาม. มัน​มี​ถิ่น​กำเนิด​ใน​ป่า​ของ​มาเลเซีย. เนื่อง​จาก​มัน​อยู่​ใน​วงศ์ Moraceae มัน​จึง​อยู่​ใน​เครือ​เดียว​กับ​มะเดื่อ, หม่อน, และ​ขนุน. เมื่อ​โต​เต็ม​ที่ มัน​อาจ​สูง​ถึง 12 เมตร และ​แตก​หน่อ​ที่​สามารถ​ตัด​เอา​ไป​ปลูก​ได้. ต้น​สาเก​ออก​ทั้ง​ดอก​ตัว​ผู้​และ​ดอก​ตัว​เมีย​แต่​อยู่​คน​ละ​ช่อ. ดอก​เหล่า​นี้​ซึ่ง​เมื่อ​อยู่​ใน​ป่า​ต้อง​อาศัย​ค้างคาว​กิน​ผลไม้​ตัว​เล็ก ๆ เพื่อ​ผสม​เกสร​และ​แพร่​เมล็ด​พันธุ์​ออก​ไป จะ​โต​ขึ้น​กลาย​เป็น​ผลไม้​ลูก​ใหญ่​ทรง​กลม หรือ​ทรง​รี ขนาด​พอ ๆ กับ​แตงโม​ลูก​เล็ก ๆ มี​เปลือก​สี​เขียว​และ​ข้าง​ใน​มี​สี​ครีม​ถึง​สี​เหลือง​ทอง.

นอก​จาก​นี้ ต้น​สาเก​ยัง​มี​ใบ​ขนาด​ใหญ่​สี​เขียว​เข้ม​เป็น​มัน​เงา ซึ่ง​ให้​ร่ม​เงา​ที่​เย็น​สบาย​ท่ามกลาง​แสง​แดด​อัน​ร้อน​ระอุ​แห่ง​เขต​ร้อน. เนื้อ​ไม้​ของ​มัน​ที่​อ่อน​และ​มี​น้ำหนัก​เบา​ถูก​นำ​มา​ใช้​ทำ​เครื่อง​เรือน​และ​เรือ​แคนู ขณะ​ที่​บาง​ครั้ง​มี​การ​นำ​เปลือก​ไม้​ชั้น​ใน​ไป​ทำ​ผ้า​ชนิด​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ทั่ว​แปซิฟิก​ว่า ทา​ปา. น้ำ​ยาง​ที่​มี​สี​ขาว​ถูก​นำ​ไป​ใช้​เป็น​ส่วน​ผสม​ของ​สาร​กัน​น้ำ และ​ใน​บาง​แห่ง​น้ำ​ยาง​นั้น​ถูก​นำ​ไป​ทำ​เป็น​เฝือก​หุ้ม​กระดูก​ที่​หัก​และ​แม้​กระทั่ง​เป็น​กาว​สำหรับ​ดัก​จับ​นก.

[ภาพ​หน้า 24]

ภาพ​วาด​โดย​โรเบิร์ต ดอดด์ แสดง​ถึง​การ​ลุก​ฮือ​ขึ้น​บน​เรือ “เบานตี”

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 24]

National Library of Australia, Canberra, Australia/Bridgeman Art Library

[ภาพ​หน้า 26]

สาเก​สามารถ​นำ​ไป​ทำ​อะไร​ได้​หลาย​อย่าง