คุณจะมีความสุขแท้ได้!
คุณจะมีความสุขแท้ได้!
คนมากมายทั่วโลกดูเหมือนจะเชื่อว่าปัจจัยที่ทำให้ชีวิตมีความสุขคือรถยนต์คันหรู, เงินก้อนโตในบัญชีธนาคาร, งานที่มีหน้ามีตา, บ้านหลังใหญ่, และสิ่งประดิษฐ์ทางอิเล็กทรอนิกส์รุ่นล่าสุด, พร้อมกับมีรูปร่างหน้าตาดีหรือมีกล้ามเป็นมัด ๆ. แต่ความสุขขึ้นอยู่กับการมีสมบัติวัตถุและรูปร่างหน้าตาดีจริง ๆ ไหม?
รายงานพิเศษในวารสารไทม์ กล่าวว่า มี “การค้นคว้าวิจัยกันมากมายในเรื่องความสุข, การมองโลกในแง่ดี, การมีอารมณ์แจ่มใสและลักษณะนิสัยที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ.” ผลการศึกษาวิจัยได้ทำให้หลายคนประหลาดใจ. มีการพบหลักฐานที่สอดคล้องกันอย่างน่าทึ่งซึ่งแสดงว่า ผู้ที่ดำเนินชีวิตโดยอาศัยแนวคิดที่ว่าเงินทอง, ชื่อเสียง, และความงามจะทำให้ชีวิตมีความสุขนั้นกำลังหลอกตัวเอง. ที่จริงแล้วพวกเขากำลังสร้างชีวิตบนฐานรากที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตของตนเองและอาจถึงกับทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ในภายหลัง.
ในสหรัฐ ผู้คนมากมายมีฐานะร่ำรวยขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน. วารสารไทม์กล่าวว่า “แต่ที่จริงแล้วเราไม่ได้มีความสุขมากขึ้นเลย.” แน่นอนว่าผู้คนในประเทศอื่น ๆ ก็คงประสบสิ่งเดียวกัน. ในประเทศจีนซึ่งเศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วก็ปรากฏว่ามีคนที่ขาดความสุขเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจเช่นกัน. วารสารรายสามเดือนชื่อแอ็คเซส เอเชียกล่าวว่า ในประเทศจีน การฆ่าตัวตายได้กลายเป็น “สาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ในหมู่คนที่มีอายุระหว่าง 15 ถึง 34 ปี.” สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะคนหนุ่มสาวถูกกดดันให้ประสบความสำเร็จในโลกที่ยากลำบากและเต็มไปด้วยความเครียด.
เห็นได้ชัดว่า ความมั่งมีทางวัตถุไม่ได้ช่วยลดความกังวลและความเครียด แต่กลับทำให้กังวลและเครียดมากขึ้นด้วยซ้ำ. การศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทำขึ้นได้ข้อสรุปว่า “วิธีดำเนินชีวิตของเรานี่แหละที่เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เรามีสภาพทางอารมณ์และจิตใจไม่มั่นคง.” ตามคำกล่าวของแวน วิชเชิร์ด นักวิเคราะห์กระแสสังคม “ส่วนที่เติบโตเร็วที่สุดของการประกันสุขภาพในหมู่พนักงานของหลายบริษัทคือการประกันด้านอารมณ์และจิตใจ.”
แม้แต่เด็ก ๆ ก็ได้รับผลกระทบจากการที่โลกของเราเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว. วิชเชิร์ด กล่าวว่า เดี๋ยวนี้มีหนังสือสำหรับเด็กวัยแปดขวบหลายเล่มซึ่งแนะนำเด็ก ๆ ให้รู้จัก “วิธีสังเกตอาการต่าง ๆ ของความเครียดและบอกวิธีรับมือ.” และจากข้อมูลเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า พบว่าในประเทศทางตะวันตกหลายประเทศมีเด็กที่เป็นโรคซึมเศร้าเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจถึงปีละ 23 เปอร์เซ็นต์. นอกจากนั้น “เด็กก่อนวัยเรียนเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เติบโตเร็วที่สุดในตลาดยาระงับอาการซึมเศร้า.”
ความกลัวก็เพิ่มขึ้นด้วย และไม่ใช่เพราะความผันผวนทางเศรษฐกิจเท่านั้น. เนื่องจากมีความสุดโต่งทางการเมืองและศาสนาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนจึงหวั่นวิตกเกี่ยวกับสภาพการณ์อันน่ากลัวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต. มีอะไรที่ช่วยได้ไหม?
ประมาณสองพันปีมาแล้ว พระเยซูคริสต์ทรงแนะแนวทางชีวิตที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงทั้งยังช่วยลดความเครียด. แก่นแท้แห่งคำสอนของพระเยซูคือความจริงที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง. พระองค์ตรัสว่า “ความสุขมีแก่ผู้ที่รู้สำนึกถึงความจำเป็นฝ่ายวิญญาณของตน.” (มัดธาย 5:3, ล.ม.) ใช่แล้ว พระเยซูทรงสนับสนุนผู้ที่ฟังพระองค์ให้สนใจความจำเป็นที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ นั่นคือ ความจำเป็นฝ่ายวิญญาณหรือความจำเป็นที่จะรู้จักความจริงเกี่ยวกับพระผู้สร้างและพระประสงค์ของพระองค์สำหรับเรา.
ดังที่เราจะได้เห็นในบทความต่อ ๆ ไป ความจริงนี้จะช่วยเราให้มองออกว่า อะไรคือสิ่งสำคัญจริง ๆ ซึ่งจะทำให้ชีวิตมีความสุขและมีความหมายยิ่งขึ้น. และความจริงดังกล่าวยังทำให้เรามีความหวังที่สดใสอีกด้วย.
[คำโปรยหน้า 3]
ความสุขขึ้นอยู่กับการมีสมบัติวัตถุไหม?