ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

กุญแจ​สู่​ความ​สุข​ใน​ครอบครัว

สร้าง​ความ​ไว้​เนื้อ​เชื่อใจ​กัน​ขึ้น​ใหม่

สร้าง​ความ​ไว้​เนื้อ​เชื่อใจ​กัน​ขึ้น​ใหม่

สตีฟ aพูด​ว่า “ผม​ไม่​เคย​คิด​เลย​ว่า​โจ​ดี​จะ​นอก​ใจ​ผม. ผม​หมด​ความ​ไว้​วางใจ​ใน​ตัว​เธอ. การ​ให้​อภัย​เธอ​เป็น​เรื่อง​ยาก​เกิน​กว่า​ที่​ผม​จะ​อธิบาย​ได้.”

โจ​ดี​พูด​ว่า “ฉัน​เข้าใจ​ดี​ว่า​ทำไม​สตีฟ​เลิก​ไว้​ใจ​ฉัน. ฉัน​ต้อง​ใช้​เวลา​หลาย​ปี​กว่า​จะ​พิสูจน์​ให้​เขา​เห็น​ว่า​ฉัน​เสียใจ​จริง ๆ.”

คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​สามี​หรือ​ภรรยา​ที่​ถูก​นอก​ใจ​มี​สิทธิ์​เลือก​ว่า​เขา​ต้องการ​หย่า​ขาด​จาก​คู่​สมรส​หรือ​ไม่. b (มัดธาย 19:9) สตีฟ​ซึ่ง​กล่าว​ถึง​ตอน​ต้น​ตัดสิน​ใจ​ไม่​หย่า. ทั้ง​เขา​และ​โจ​ดี​ตั้งใจ​ที่​จะ​รักษา​สาย​สมรส​เอา​ไว้. แต่​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป พวก​เขา​ได้​เรียน​รู้​ว่า​การ​รักษา​สาย​สมรส​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​แค่​การ​อยู่​ด้วย​กัน​ต่อ​ไป​เท่า​นั้น. ทำไม? เพราะ​จาก​คำ​พูด​ของ​ทั้ง​คู่​จะ​เห็น​ได้​ว่า เมื่อ​โจ​ดี​นอก​ใจ​สามี เธอ​ได้​ทำลาย​ความ​ไว้​เนื้อ​เชื่อใจ​ที่​พวก​เขา​มี​ต่อ​กัน​จน​หมด. เนื่อง​จาก​การ​ไว้​เนื้อ​เชื่อใจ​กัน​เป็น​ปัจจัย​สำคัญ​ที่​ทำ​ให้​ชีวิต​สมรส​มี​ความ​สุข ดัง​นั้น ทั้ง​สามี​และ​ภรรยา​ต้อง​ฟื้นฟู​ความ​รู้สึก​นั้น​กลับ​คืน​มา​ให้​ได้.

ถ้า​คุณ​กับ​คู่​ของ​คุณ​กำลัง​พยายาม​รักษา​สาย​สมรส​ไว้​หลัง​จาก​เกิด​ปัญหา​ร้ายแรง​เช่น​ที่​กล่าว​มา​นี้ คุณ​คง​รู้​ดี​ว่า​การ​ทำ​เช่น​นั้น​ไม่​ง่าย​เลย. ใน​ช่วง​สอง​สาม​เดือน​แรก​หลัง​จาก​ที่​เรื่อง​ถูก​เปิด​เผย คุณ​ทั้ง​คู่​คง​ต้อง​พยายาม​มาก​เป็น​พิเศษ. แต่​คุณ​จะ​ทำ​ได้​แน่นอน! คุณ​จะ​สร้าง​ความ​ไว้​เนื้อ​เชื่อใจ​กัน​ขึ้น​มา​ใหม่​ได้​อย่าง​ไร? คำ​แนะ​นำ​ที่​สุขุม​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ช่วย​คุณ​ได้. ขอ​พิจารณา​ข้อ​แนะ​สี่​ประการ​ต่อ​ไป​นี้.

1 พูด​ความ​จริง​ต่อ​กัน.

อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “เมื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เลิก​พูด​มุสา​แล้ว ให้​พวก​ท่าน​แต่​ละ​คน​พูด​ความ​จริง.” (เอเฟโซส์ 4:​25) การ​โกหก การ​ไม่​พูด​ความ​จริง​ทั้ง​หมด หรือ​แม้​แต่​การ​ไม่​ปริปาก​พูด​อะไร​เลย​ล้วน​บั่น​ทอน​ความ​ไว้​เนื้อ​เชื่อใจ​กัน. ดัง​นั้น คุณ​จำเป็น​ต้อง​พูด​อย่าง​เปิด​อก​และ​พูด​ความ​จริง​ต่อ​กัน.

ตอน​แรก คุณ​และ​คู่​ของ​คุณ​อาจ​รู้สึก​เจ็บ​ปวด​จน​ไม่​อยาก​เอ่ย​ถึง​เรื่อง​การ​นอก​ใจ. แต่​ใน​ที่​สุด คุณ​จำเป็น​ต้อง​พูด​กัน​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​ถึง​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น. คุณ​อาจ​เลือก​ที่​จะ​ไม่​พูด​ถึง​ราย​ละเอียด​ทุก​อย่าง แต่​การ​หลีก​เลี่ยง​ไม่​พูด​เรื่อง​นั้น​เลย​นับ​ว่า​ไม่​ฉลาด. โจ​ดี​ซึ่ง​กล่าว​ถึง​ตอน​ต้น​บอก​ว่า “ตอน​แรก​ฉัน​รู้สึก​ว่า​การ​พูด​ถึง​เรื่อง​ที่​เกิด​ขึ้น​เป็น​สิ่ง​ที่​ยาก​มาก​และ​น่า​อาย​เหลือ​เกิน. ฉัน​รู้สึก​เสียใจ​จริง ๆ จน​ไม่​อยาก​พูด​เรื่อง​นั้น​และ​อยาก​ลืม​เสีย​ให้​หมด.” แต่​การ​ไม่​พูด​คุย​กัน​กลับ​ทำ​ให้​ปัญหา​บานปลาย. เพราะ​อะไร? สตีฟ​บอก​ว่า “การ​ที่​โจ​ดี​ไม่​ยอม​ปริปาก​พูด​เรื่อง​ที่​เธอ​นอก​ใจ​ผม​ทำ​ให้​ผม​ระแวง​สงสัย​เธอ​ตลอด​เวลา.” เมื่อ​ย้อน​คิด​ถึง​ช่วง​เวลา​นั้น โจ​ดี​ยอม​รับ​ว่า “การ​ที่​ฉัน​ไม่​พูด​คุย​เรื่อง​นั้น​กับ​สามี​ทำ​ให้​ยาก​ที่​เรา​สอง​คน​จะ​ปรับ​ความ​เข้าใจ​กัน.”

แน่นอน​ว่า การ​พูด​ถึง​การ​นอก​ใจ​ทำ​ให้​รู้สึก​เจ็บ​ปวด. เดบบี​เล่า​ถึง​ความ​รู้สึก​ตอน​ที่​รู้​ว่า​พอล​สามี​ของ​เธอ​ลักลอบ​เป็น​ชู้​กับ​เลขานุการ ดัง​นี้: “ฉัน​มี​คำ​ถาม​คา​ใจ​มาก​มาย. มัน​เกิด​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร? ทำไม? และ​พวก​เขา​คุย​อะไร​กัน​บ้าง? ฉัน​แทบ​เป็น​บ้า​และ​ครุ่น​คิด​ถึง​แต่​เรื่อง​นั้น. และ​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป ฉัน​ก็​ยิ่ง​มี​คำ​ถาม​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ.” พอล​พูด​ว่า “เพราะ​อย่าง​นี้​ผม​กับ​เดบบี​จึง​มี​ปาก​เสียง​กัน​อย่าง​รุนแรง​บ่อย ๆ. แต่​หลัง​จาก​นั้น​เรา​จะ​ขอ​โทษ​กัน​เสมอ. การ​พูด​คุย​กัน​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​เช่น​นี้​ทำ​ให้​เรา​ใกล้​ชิด​กัน​มาก​ขึ้น.”

คุณ​จะ​ทำ​ให้​การ​พูด​คุย​กัน​ไม่​ลงเอย​ด้วย​การ​ทะเลาะ​เบาะ​แว้ง​ได้​อย่าง​ไร? ขอ​ให้​จำ​ไว้​ว่า​เป้าหมาย​หลัก​ของ​การ​พูด​คุย​กัน​ไม่​ใช่​เพื่อ​ทำ​ให้​คู่​ของ​คุณ​เจ็บ​ปวด แต่​เพื่อ​เรียน​รู้​จาก​เหตุ​การณ์​น่า​เศร้า​ที่​เกิด​ขึ้น​และ​เสริม​สร้าง​สาย​สัมพันธ์​ของ​คุณ​ให้​แน่นแฟ้น​ขึ้น. ตัว​อย่าง​เช่น ชอลซู​กับ​มียอง​ภรรยา​ของ​เขา​พยายาม​ช่วย​กัน​วิเคราะห์​ว่า​อะไร​เป็น​เหตุ​ให้​ชอล­ซู​ทำ​ผิด. ชอลซู​พูด​ว่า “ผม​พบ​ว่า​ที่​ผ่าน​มา​ผม​มัว​แต่​สนใจ​เรื่อง​ของ​ตัว​เอง. นอก​จาก​นั้น ผม​ยัง​ชอบ​เอา​อก​เอา​ใจ​คน​อื่น​มาก​เกิน​ไป. ผม​ใช้​เวลา​ส่วน​ใหญ่​อยู่​กับ​พวก​เขา​และ​คอย​เอา​ใจ​ใส่​พวก​เขา. ผม​จึง​แทบ​ไม่​เหลือ​เวลา​ให้​ภรรยา​เลย.” เมื่อ​เข้าใจ​เช่น​นี้ ชอลซู​กับ​มียอง​ก็​มอง​เห็น​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ทั้ง​คู่​ต้อง​เปลี่ยน​แปลง และ​ใน​ที่​สุด​พวก​เขา​ก็​ฟื้นฟู​ชีวิต​สมรส​ได้.

ลอง​วิธี​นี้: ถ้า​คุณ​เป็น​ฝ่าย​ที่​นอก​ใจ อย่า​พยายาม​หา​ข้อ​แก้​ตัว​หรือ​โยน​ความ​ผิด​ให้​คู่​สมรส. คุณ​ต้อง​รับ​ผิด​ชอบ​ใน​สิ่ง​ที่​คุณ​ทำ​และ​ความ​เจ็บ​ปวด​ที่​คุณ​ก่อ​ขึ้น. แต่​ถ้า​คุณ​เป็น​ฝ่าย​ที่​ถูก​นอก​ใจ อย่า​ตวาด​หรือ​ใช้​คำ​พูด​หยาบคาย​กับ​คู่​สมรส. ถ้า​คุณ​หลีก​เลี่ยง​คำ​พูด​เช่น​นั้น คู่​ของ​คุณ​ก็​คง​อยาก​พูด​กับ​คุณ​อย่าง​เปิด​อก​ต่อ​ไป.—เอเฟโซส์ 4:32

2 ทำ​งาน​เป็น​ทีม.

คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “สอง​คน​ก็​ดี​กว่า​คน​เดียว.” ทำไม? “เพราะ​ว่า​เขา​ทั้ง​สอง​ได้​รับ​ผล​ของ​งาน​ดี​กว่า. ด้วย​ว่า​ถ้า​คน​หนึ่ง​ล้ม​ลง, อีก​คน​หนึ่ง​จะ​ได้​พยุง​ยก​เพื่อน​ของ​ตน​ให้​ลุก​ขึ้น.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 4:​9, 10) หลักการ​ข้อ​นี้​เป็น​จริง​ที​เดียว โดย​เฉพาะ​เมื่อ​คุณ​พยายาม​สร้าง​ความ​ไว้​เนื้อ​เชื่อใจ​กัน​ขึ้น​มา​ใหม่.

ถ้า​คุณ​ทั้ง​สอง​ร่วม​มือ​กัน คุณ​จะ​ฟื้นฟู​ความ​ไว้​เนื้อ​เชื่อใจ​ขึ้น​ใหม่​ได้​อย่าง​แน่นอน. แต่​คุณ​ทั้ง​คู่ ต้อง​มุ่ง​มั่น​และ​พยายาม​เต็ม​ที่​เพื่อ​รักษา​สาย​สมรส​เอา​ไว้. ถ้า​คุณ​พยายาม​แก้​ปัญหา​อยู่​ฝ่าย​เดียว คุณ​ก็​อาจ​สร้าง​ปัญหา​ให้​ตัว​เอง​มาก​ขึ้น​อีก. คุณ​ต้อง​มอง​ว่า​คู่​สมรส​เป็น​เพื่อน​ร่วม​ทีม​ของ​คุณ.

สตีฟ​กับ​โจ​ดี​ก็​คิด​เช่น​นั้น. โจ​ดี​บอก​ว่า “เรื่อง​นี้​ต้อง​ใช้​เวลา แต่​ฉัน​กับ​สตีฟ​ทำ​งาน​ร่วม​กัน​เป็น​ทีม​เพื่อ​สร้าง​สาย​สมรส​ของ​เรา​ให้​เข้มแข็ง. ฉัน​ตั้งใจ​แน่วแน่​ว่า​จะ​ไม่​ทำ​ให้​สามี​เจ็บ​ช้ำ​น้ำใจ​อีก. และ​ถึง​แม้​สตีฟ​จะ​เจ็บ​ปวด​แต่​เขา​ก็​ตั้งใจ​ว่า​จะ​ไม่​ยอม​ให้​ชีวิต​สมรส​ของ​เรา​พัง​ทลาย. แต่​ละ​วัน​ฉัน​พยายาม​มอง​หา​วิธี​ทำ​ให้​เขา​มั่น​ใจ​ว่า​ฉัน​จะ​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​เขา ส่วน​เขา​เอง​ก็​ยัง​แสดง​ความ​รัก​ต่อ​ฉัน​เสมอ. ฉัน​ซาบซึ้ง​ใจ​และ​ขอบคุณ​เขา​จริง ๆ.”

ลอง​วิธี​นี้: ตั้งใจ​แน่วแน่​ว่า​คุณ​ทั้ง​คู่​จะ​ร่วม​มือ​กัน​เพื่อ​สร้าง​ความ​ไว้​เนื้อ​เชื่อใจ​กัน​ขึ้น​ใหม่.

3 เปลี่ยน​แปลง​แก้ไข​ตัว​เอง.

หลัง​จาก​พระ​เยซู​เตือน​ผู้​ที่​ฟัง​พระองค์​ให้​ระวัง​การ​เล่นชู้ พระองค์​ให้​คำ​แนะ​นำ​ว่า “ถ้า​ตา​ขวา​ของ​เจ้า​เป็น​เหตุ​ให้​เจ้า​หลง​ผิด จง​ควัก​ทิ้ง​เสีย.” (มัดธาย 5:​27-29) ถ้า​คุณ​เป็น​ฝ่าย​นอก​ใจ​คู่​สมรส คุณ​นึก​ออก​ไหม​ว่า​มี​นิสัย​หรือ​ทัศนะ​เช่น​ไร​บ้าง​ที่​คุณ​ต้อง​เลิก​อย่าง​เด็ดขาด​เพื่อ​รักษา​สาย​สมรส​ไว้?

แน่นอน​ว่า คุณ​ต้อง​ตัด​ความ​สัมพันธ์​กับ​ชู้​รัก​ของ​คุณ. c (สุภาษิต 6:32; 1 โครินท์ 15:33) พอล​ซึ่ง​กล่าว​ถึง​ก่อน​หน้า​นี้​ได้​เปลี่ยน​ตาราง​การ​ทำ​งาน​ของ​เขา​และ​เปลี่ยน​เบอร์​โทรศัพท์​มือ​ถือ​เพื่อ​จะ​ตัด​การ​ติด​ต่อ​กับ​ผู้​หญิง​คน​นั้น. แม้​จะ​ทำ​เช่น​นี้​แล้ว เขา​ก็​ยัง​ไม่​สามารถ​เลี่ยง​การ​ติด​ต่อ​กับ​ผู้​หญิง​คน​นั้น​ได้​อย่าง​สิ้นเชิง. แต่​พอล​ตั้งใจ​ว่า​จะ​ทำ​ให้​ภรรยา​กลับ​มา​เชื่อใจ​เขา​ให้​ได้ เขา​จึง​ลา​ออก​จาก​งาน. นอก​จาก​นั้น เขา​ยัง​เลิก​ใช้​โทรศัพท์​มือ​ถือ​ของ​ตัว​เอง​และ​ใช้​แต่​โทรศัพท์​ของ​ภรรยา. การ​สละ​ความ​สะดวก​สบาย​เช่น​นี้​ให้​ผล​คุ้มค่า​ไหม? เดบบี​ภรรยา​ของ​เขา​กล่าว​ว่า “เรื่อง​ผ่าน​มา​หก​ปี​แล้ว และ​บาง​ครั้ง​ฉัน​ก็​ยัง​กังวล​ว่า​ผู้​หญิง​คน​นั้น​จะ​พยายาม​ติด​ต่อ​เขา​อีก. แต่​ตอน​นี้​ฉัน​มั่น​ใจ​ว่า​พอล​จะ​ไม่​กลับ​ไป​ยุ่ง​กับ​ผู้​หญิง​คน​นั้น​เด็ดขาด.”

นอก​จาก​นี้ ถ้า​คุณ​เป็น​ฝ่าย​ทำ​ผิด คุณ​อาจ​จำเป็น​ต้อง​เปลี่ยน​แปลง​นิสัย​บาง​อย่าง​ด้วย. ตัว​อย่าง​เช่น คุณ​อาจ​เป็น​คน​ที่​ชอบ​หว่าน​เสน่ห์​หรือ​เจ้า​ชู้ หรือ​ชอบ​คิด​เพ้อ​ฝัน​ใน​เรื่อง​รัก ๆ ใคร่ ๆ กับ​คน​ที่​ไม่​ใช่​คู่​สมรส​ของ​คุณ. ถ้า​เป็น​อย่าง​นั้น “จง​เปลื้อง​บุคลิกภาพ​เก่า​กับ​กิจ​ปฏิบัติ​ต่าง ๆ ของ​มัน​ทิ้ง​เสีย.” จง​เลิก​นิสัย​เก่า ๆ และ​เปลี่ยน​แปลง​ตัว​เอง​เพื่อ​ให้​คู่​สมรส​มั่น​ใจ​ใน​ตัว​คุณ​มาก​ขึ้น. (โกโลซาย 3:9, 10) การ​อบรม​เลี้ยง​ดู​ใน​วัย​เด็ก​ทำ​ให้​คุณ​กลาย​เป็น​คน​ที่​แสดง​ความ​รัก​ไม่​เป็น​ไหม? ถึง​แม้​ตอน​แรก​คุณ​อาจ​รู้สึก​เคอะ​เขิน แต่​ขอ​ให้​คุณ​แสดง​ความ​รัก​ต่อ​คู่​สมรส​ให้​มาก ๆ และ​พยายาม​ทำ​ให้​เขา​มั่น​ใจ​ใน​ความ​รัก​ของ​คุณ. สตีฟ​เล่า​ว่า “โจ​ดี​จะ​แสดง​ความ​รัก​ต่อ​ผม​บ่อย ๆ ด้วย​การ​เอา​มือ​มา​จับ​ตัว​ผม และ​เธอ​มัก​จะ​บอก​ผม​ว่า ‘ฉัน​รัก​คุณ.’ ”

ใน​ระยะ​แรก คุณ​ควร​บอก​ให้​คู่​สมรส​รู้​ทุก​อย่าง​ว่า​แต่​ละ​วัน​คุณ​ไป​ที่​ไหน​และ​ทำ​อะไร​บ้าง. มียอง​ที่​กล่าว​ถึง​ข้าง​ต้น​บอก​ว่า “ชอลซู​ถึง​กับ​เล่า​ให้​ฉัน​ฟัง​หมด​ทุก​อย่าง​ว่า​แต่​ละ​วัน​เกิด​อะไร​ขึ้น เขา​เล่า​แม้​แต่​เรื่อง​สัพเพเหระ​เพื่อ​ให้​ฉัน​เห็น​ว่า​เขา​ไม่​มี​อะไร​ปิด​บัง​ฉัน.”

ลอง​วิธี​นี้: ถาม​คู่​สมรส​ว่า​คุณ​จะ​ทำ​อะไร​ได้​บ้าง​เพื่อ​ให้​เขา​กลับ​มา​ไว้​ใจ​คุณ​อีก​ครั้ง. เขียน​สิ่ง​ที่​เขา​พูด​ลง​ใน​กระดาษ​และ​พยายาม​ทำ​ตาม​นั้น. นอก​จาก​นั้น คุณ​ควร​ทำ​กิจกรรม​ร่วม​กัน​ใน​แต่​ละ​วัน​ให้​มาก​ขึ้น.

4 รอ​เวลา​ที่​เหมาะ​สม.

อย่า​เพิ่ง​ด่วน​สรุป​ว่า​ถึง​เวลา​แล้ว​ที่​คุณ​ทั้ง​คู่​จะ​กลับ​ไป​ใช้​ชีวิต​ตาม​ปกติ​เหมือน​กับ​ว่า​ปัญหา​ทุก​อย่าง​คลี่คลาย​ลง​แล้ว. สุภาษิต 21:5 (ฉบับ R​73) เตือน​ว่า “ทุก​คน​ที่​เร่ง​ร้อน​ก็​มา​สู่​ความ​ขัดสน.” การ​สร้าง​ความ​ไว้​เนื้อ​เชื่อใจ​กัน​ขึ้น​ใหม่​เป็น​เรื่อง​ที่​ต้อง​ใช้​เวลา และ​อาจ​นาน​หลาย​ปี​ที​เดียว.

ถ้า​คุณ​เป็น​ฝ่าย​ที่​ถูก​นอก​ใจ คุณ​ต้อง​ให้​เวลา​ตัว​เอง​มาก​พอ​เพื่อ​จะ​ให้​อภัย​คู่​สมรส​ได้​อย่าง​สนิท​ใจ. มียอง​เล่า​ว่า “ฉัน​เคย​คิด​ว่า​เป็น​เรื่อง​แปลก​มาก​ที่​ภรรยา​ไม่​ยอม​ให้​อภัย​สามี​ที่​ไม่​ซื่อ​สัตย์. ฉัน​ไม่​เข้าใจ​เลย​ว่า​ทำไม​เธอ​ถึง​โกรธ​สามี​นาน​ขนาด​นั้น. แต่​เมื่อ​เจอ​เข้า​กับ​ตัว​เอง ฉัน​ก็​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​ทำไม​การ​ให้​อภัย​จึง​เป็น​เรื่อง​ยาก.” การ​ให้​อภัย​และ​การ​เชื่อใจ​กัน​ไม่​ใช่​เรื่อง​ที่​ทำ​ได้​ใน​เวลา​สั้น ๆ.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ท่าน​ผู้​ประกาศ 3:1-3 กล่าว​ว่า​มี “วาระ​สำหรับ​เยียว​ยา.” ตอน​แรก คุณ​อาจ​คิด​ว่า​การ​ไม่​ปริปาก​บอก​คู่​สมรส​ว่า​คุณ​รู้สึก​อย่าง​ไร​เป็น​วิธี​ที่​ดี​ที่​สุด. แต่​วิธี​นี้​จะ​ไม่​ช่วย​ให้​คุณ​กลับ​มา​ไว้​ใจ​คู่​ของ​คุณ​ได้​อีก. เพื่อ​เยียว​ยา​ความ​สัมพันธ์​ที่​ร้าว​ฉาน คุณ​ต้อง​ให้​อภัย​คู่​สมรส​และ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คุณ​ยก​โทษ​ให้​เขา​แล้ว โดย​พูด​คุย​และ​เปิด​เผย​ความ​รู้สึก​ของ​คุณ​กับ​เขา​เหมือน​เดิม. นอก​จาก​นั้น คุณ​ควร​ถาม​เขา​ว่า​รู้สึก​กังวล​อะไร​ไหม​หรือ​มี​เรื่อง​ที่​น่า​ยินดี​อะไร​บ้าง.

อย่า​จมปลัก​อยู่​กับ​ความ​ขมขื่น. คุณ​ต้อง​เอา​ชนะ​ความ​รู้สึก​นั้น​ให้​ได้. (เอเฟโซส์ 4:32) คุณ​อาจ​พบ​ว่า​การ​ใคร่ครวญ​ตัว​อย่าง​ของ​พระเจ้า​เป็น​ประโยชน์​สำหรับ​คุณ. พระเจ้า​ทรง​ปวด​ร้าว​พระทัย​เมื่อ​ประชาชน​ของ​พระองค์​ใน​อิสราเอล​โบราณ​ละ​ทิ้ง​พระองค์. พระ​ยะโฮวา​ทรง​ถึง​กับ​เปรียบ​พระองค์​เป็น​เหมือน​สามี​ที่​ถูก​ภรรยา​นอก​ใจ. (ยิระมะยา 3:8, 9; 9:2) แต่​พระองค์ “ไม่​เก็บ (ความ​โกรธ) เป็น​นิตย์.” (ยิระมะยา 3:12) เมื่อ​ประชาชน​ของ​พระองค์​กลับ​มา​หา​พระองค์​และ​แสดง​การ​กลับ​ใจ​อย่าง​แท้​จริง พระเจ้า​ก็​ทรง​ให้​อภัย​พวก​เขา.

ใน​ที่​สุด เมื่อ​คุณ​ทั้ง​คู่​พอ​ใจ​กับ​ความ​สัมพันธ์​ที่​เปลี่ยน​ไป​ใน​ทาง​ที่​ดี​ขึ้น คุณ​ก็​จะ​รู้สึก​ว่า​ชีวิต​สมรส​ของ​คุณ​มั่นคง. เมื่อ​ถึง​ตอน​นั้น แทน​ที่​จะ​สนใจ​เพียง​ว่า​จะ​รักษา​สาย​สมรส​ไว้​ได้​อย่าง​ไร คุณ​จะ​สามารถ​ตั้ง​เป้าหมาย​อื่น ๆ ร่วม​กัน​ได้​ด้วย. ถึง​กระนั้น คุณ​ก็​ยัง​ต้อง​ประเมิน​เป็น​ระยะ ๆ ว่า​ความ​สัมพันธ์​ของ​คุณ​ก้าว​หน้า​ไป​ถึง​ขั้น​ไหน. อย่า​คิด​ว่า​แค่​นี้​ก็​ดี​แล้ว. ถ้า​บาง​ครั้ง​คุณ​ไม่​สามารถ​ทำ​ได้​อย่าง​ที่​หวัง​ไว้​ก็​อย่า​เพิ่ง​ท้อ และ​ขอ​ให้​คุณ​ทั้ง​คู่​พยายาม​ทำ​ตาม​ความ​ตั้งใจ​ของ​คุณ​ต่อ​ไป.—กาลาเทีย 6:9

ลอง​วิธี​นี้: แทน​ที่​จะ​คิด​ว่า​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ให้​ชีวิต​สมรส​กลับ​ไป​เป็น​เหมือน​แต่​ก่อน ขอ​ให้​คุณ​พยายาม​สร้าง​สาย​สัมพันธ์​ขึ้น​ใหม่​ให้​แน่นแฟ้น​กว่า​เดิม.

คุณ​สามารถ​ทำ​ได้

ถ้า​บาง​ครั้ง​คุณ​รู้สึก​ไม่​แน่​ใจ​ว่า​ความ​พยายาม​ของ​คุณ​จะ​สำเร็จ​ผล​หรือ​ไม่ ขอ​ให้​จำ​ไว้​ว่า พระเจ้า​เป็น​ผู้​ก่อ​ตั้ง​การ​สมรส. (มัดธาย 19:4-6) ดัง​นั้น ชีวิต​สมรส​ของ​คุณ​จะ​ประสบ​ความ​สำเร็จ​ได้​ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระองค์. คู่​สมรส​ทุก​คู่​ที่​กล่าว​ถึง​ใน​บทความ​นี้​ได้​ใช้​คำ​แนะ​นำ​ที่​สุขุม​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​สามารถ​รักษา​สาย​สมรส​ของ​พวก​เขา​เอา​ไว้​ได้.

เวลา​ผ่าน​มา​มาก​กว่า 20 ปี​แล้ว​ตั้ง​แต่​ที่​สตีฟ​กับ​โจ​ดี​มี​ปัญหา​ที่​เกือบ​ทำ​ให้​ชีวิต​สมรส​พัง​ทลาย. สตีฟ​พูด​ถึง​ช่วง​ที่​พวก​เขา​พยายาม​กลับ​มา​คืน​ดี​กัน​ดัง​นี้: “ความ​สัมพันธ์​ของ​เรา​ดี​ขึ้น​มาก​อย่าง​เห็น​ได้​ชัด​หลัง​จาก​ที่​เรา​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. การ​ช่วยเหลือ​ที่​เรา​ได้​รับ​มี​ค่า​เกิน​กว่า​จะ​ประเมิน​ได้. ใน​ที่​สุด เรา​ก็​ผ่าน​พ้น​ช่วง​เวลา​ที่​ยาก​ลำบาก​นั้น​มา​ได้.” โจ​ดี​บอก​ว่า “ฉัน​รู้สึก​ว่า​เป็น​พระ​พร​จริง ๆ ที่​เรา​สามารถ​อด​ทน​จน​ฟันฝ่า​ช่วง​วิกฤติ​นั้น. การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ด้วย​กัน​และ​การ​ทุ่มเท​ความ​พยายาม​อย่าง​เต็ม​ที่​ทำ​ให้​ตอน​นี้​เรา​มี​ชีวิต​สมรส​ที่​มี​ความ​สุข​มาก​จริง ๆ.”

a ชื่อ​ใน​บทความ​นี้​เป็น​ชื่อ​สมมุติ.

b สำหรับ​คำ​แนะ​นำ​ที่​ช่วย​ตัดสิน​ใจ​ใน​เรื่อง​นี้ โปรด​ดู​ตื่นเถิด! ฉบับ 8 พฤษภาคม 1999 หน้า 6 และ​ฉบับ 8 สิงหาคม 1995 หน้า 10 และ 11.

c ถ้า​บาง​ครั้ง​การ​ติด​ต่อ​กัน​เป็น​เรื่อง​ที่​หลีก​เลี่ยง​ไม่​ได้​จริง ๆ (เช่น ใน​ที่​ทำ​งาน) ก็​ควร​พูด​คุย​กัน​เฉพาะ​เมื่อ​จำเป็น​เท่า​นั้น​และ​ใน​ที่​ที่​มี​คน​อื่น​อยู่​ด้วย. นอก​จาก​นั้น คุณ​ควร​บอก​ให้​คู่​สมรส​รู้​ทุก​ครั้ง​ที่​ติด​ต่อ​พูด​คุย​กับ​คน​นั้น.

ถาม​ตัว​เอง​ว่า . . .

  • อะไร​คือ​เหตุ​ผล​ที่​ฉัน​ต้องการ​รักษา​ชีวิต​สมรส​เอา​ไว้​แม้​ว่า​คู่​สมรส​จะ​นอก​ใจ​ฉัน?

  • ตอน​นี้​ฉัน​เห็น​คุณลักษณะ​ที่​ดี​อะไร​บ้าง​ใน​ตัว​คู่​สมรส?

  • ตอน​ที่​เริ่ม​คบ​กัน ฉัน​ทำ​อะไร​บ้าง​เพื่อ​ให้​คู่​ของ​ฉัน​รู้​ว่า​ฉัน​รัก​เขา และ​ตอน​นี้​ฉัน​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น​อีก​ได้​ไหม?