เขียนโดยยอห์น 9:1-41

9  ตอน​ที่​พระ​เยซู​กำลัง​เดิน​อยู่ ท่าน​เห็น​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​ตา​บอด​ตั้ง​แต่​เกิด 2  พวก​สาวก​ถาม​ท่าน​ว่า “อาจารย์​ครับ+ ที่​คน​นี้​เกิด​มา​ตา​บอด​เป็น​เพราะ​ใคร​ทำ​บาป ตัว​เขา​หรือ​พ่อ​แม่?” 3  พระ​เยซู​ตอบ​ว่า “คน​นี้​ไม่​ได้​ทำ​บาป​หรอก พ่อ​แม่​เขา​ก็​ไม่​ได้​ทำ แต่​ที่​เขา​ตา​บอด​อย่าง​นี้​ก็​จะ​ทำ​ให้​คน​อื่น​ได้​เห็น​การ​อัศจรรย์​ของ​พระเจ้า+ 4  พวก​เรา​ต้อง​ทำ​งาน​ของ​พระองค์​ที่​ใช้​ผม​มา​ใน​ตอน​ที่​ยัง​เป็น​กลางวัน​อยู่+ กลางคืน​กำลัง​จะ​มา และ​เมื่อ​ถึง​ตอน​นั้น​จะ​ไม่​มี​ใคร​ทำ​งาน​ได้ 5  เมื่อ​ผม​ยัง​อยู่​ใน​โลก ผม​เป็น​ความ​สว่าง​ให้​กับ​โลก”+ 6  พูด​จบ​แล้ว พระ​เยซู​ก็​บ้วน​น้ำลาย​ลง​ดิน ทำ​เป็น​โคลน แล้ว​เอา​ไป​ทา​ตา​ของ​คน​ตา​บอด​นั้น+ 7  และ​สั่ง​เขา​ว่า “ไป​ล้าง​โคลน​ออก​ที่​สระ​สิโลอัม​เถอะ” (สิโลอัม​แปล​ว่า “พุ่ง​ออก​มา”) เขา​จึง​ไป​ล้าง​โคลน​ออก แล้ว​ก็​มอง​เห็น​ได้+ 8  เพื่อน​บ้าน​และ​หลาย​คน​ที่​เคย​เห็น​เขา​ขอ​ทาน​พูด​กัน​ว่า “เอ๊ะ คน​นี้​เคย​นั่ง​ขอ​ทาน​อยู่​ไม่​ใช่​หรือ?” 9  บาง​คน​บอก​ว่า “ใช่​เขา​แน่ ๆ” แต่​บาง​คน​ว่า “ไม่​ใช่​หรอก แค่​หน้า​ตา​เหมือน​กัน” คน​นั้น​ยืน​ยัน​กับ​พวก​เขา​ว่า “ผม​เป็น​คน​นั้น​แหละ” 10  พวก​เขา​จึง​ถาม​คน​ที่​เคย​ตา​บอด​ว่า “แล้ว​คุณ​มอง​เห็น​ได้​ยัง​ไง​ล่ะ?” 11  เขา​ตอบ​ว่า “คน​ที่​ชื่อ​เยซู​เอา​โคลน​ทา​ตา​ผม​แล้ว​บอก​ว่า ‘ไป​ล้าง​โคลน​ออก​ที่​สระ​สิโลอัม’+ พอ​ผม​ไป​ล้าง​โคลน​ออก ก็​มอง​เห็น​ได้” 12  พวก​เขา​จึง​ถาม​ว่า “คน​นั้น​อยู่​ไหน?” เขา​ตอบ​ว่า “ผม​ไม่​รู้” 13  พวก​เขา​พา​คน​ที่​เคย​ตา​บอด​ไป​หา​พวก​ฟาริสี 14  วัน​ที่​พระ​เยซู​เอา​โคลน​ทา​ตา​เขา​ให้​มอง​เห็น​นั้น+ตรง​กับ​วัน​สะบาโต​พอ​ดี+ 15  พวก​ฟาริสี​ก็​ซัก​ถาม​เขา​เหมือน​กัน​ว่า​เขา​มอง​เห็น​ได้​อย่าง​ไร เขา​ตอบ​พวก​ฟาริสี​ว่า “คน​นั้น​เอา​โคลน​มา​ทา​ตา​ผม พอ​ผม​ไป​ล้าง​โคลน​ออก ผม​ก็​มอง​เห็น​ได้” 16  ฟาริสี​บาง​คน​พูด​ขึ้น​มา​ว่า “คน​นั้น​ไม่​ได้​มา​จาก​พระเจ้า​แน่ ๆ เพราะ​เขา​ไม่​ทำ​ตาม​กฎ​วัน​สะบาโต”+ แต่​บาง​คน​พูด​ว่า “คน​บาป​จะ​ทำ​การ​อัศจรรย์​แบบ​นี้​ได้​ยัง​ไง?”+ พวก​เขา​จึง​มี​ความ​คิด​เห็น​ขัด​แย้ง​กัน+ 17  พวก​เขา​ถาม​คน​ที่​เคย​ตา​บอด​อีก​ครั้ง​ว่า “แล้ว​คุณ​ล่ะ คิด​ว่า​คน​ที่​ทำ​ให้​คุณ​มอง​เห็น​นั้น​เป็น​ใคร?” เขา​ตอบ​ว่า “เขา​เป็น​ผู้​พยากรณ์​ที่​มา​จาก​พระเจ้า​แน่ ๆ”+ 18  แต่​พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว​ไม่​เชื่อ​ว่า​เขา​เคย​ตา​บอด​และ​ตอน​นี้​มอง​เห็น​ได้ พวก​เขา​จึง​เรียก​พ่อ​แม่​ของ​คน​นั้น​มา 19  แล้ว​ถาม​ว่า “คน​นี้​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​พวก​คุณ ที่​พวก​คุณ​บอก​ว่า​เขา​ตา​บอด​ตั้ง​แต่​เกิด​ใช่​ไหม? แล้ว​ตอน​นี้​เขา​มอง​เห็น​ได้​ยัง​ไง?” 20  พ่อ​แม่​ของ​เขา​ตอบ​ว่า “ที่​พวก​เรา​รู้​ก็​คือ เขา​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​เรา และ​เขา​เกิด​มา​ตา​บอด 21  แต่​พวก​เรา​ไม่​รู้​ว่า​ตอน​นี้​เขา​มอง​เห็น​ได้​ยัง​ไง และ​ไม่​รู้​ว่า​ใคร​ทำ​ให้​เขา​มอง​เห็น ถาม​เขา​ดู​เถอะ เขา​โต​แล้ว ให้​เขา​ตอบ​เอง​ดี​กว่า” 22  พ่อ​แม่​ของ​เขา​พูด​อย่าง​นี้​เพราะ​กลัว​พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว+ ผู้​นำ​ชาว​ยิว​ตก​ลง​กัน​ไว้​แล้ว​ว่า ถ้า​ใคร​พูด​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระ​คริสต์ คน​นั้น​จะ​ถูก​ไล่​ออก​จาก​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว+ 23  พ่อ​แม่​ของ​คน​ที่​เคย​ตา​บอด​จึง​พูด​ว่า “เขา​โต​แล้ว ถาม​เขา​เอง​เถอะ” 24  คน​พวก​นั้น​เรียก​คน​ที่​เคย​ตา​บอด​มา​อีก​และ​พูด​กับ​เขา​ว่า “บอก​ความ​จริง​มา​ต่อ​หน้า​พระเจ้า พวก​เรา​รู้​นะ​ว่า​ผู้​ชาย​คน​นั้น​เป็น​คน​บาป” 25  เขา​ตอบ​ว่า “เขา​เป็น​คน​บาป​หรือ​เปล่า​ผม​ไม่​รู้ รู้​แต่​ว่า​ผม​เคย​ตา​บอด แต่​ตอน​นี้​มอง​เห็น​แล้ว” 26  พวก​นั้น​จึง​ถาม​ว่า “เขา​ทำ​อะไร​กับ​คุณ​บ้าง? เขา​ทำ​ให้​คุณ​มอง​เห็น​ได้​ยัง​ไง?” 27  เขา​ตอบ​ว่า “ผม​บอก​พวก​คุณ​ไป​แล้ว แต่​พวก​คุณ​ไม่​ฟัง จะ​ให้​ผม​เล่า​อีก​ทำไม​ล่ะ? พวก​คุณ​อยาก​เป็น​สาวก​ของ​คน​นั้น​ด้วย​หรือ?” 28  พวก​นั้น​จึง​เยาะเย้ย​เขา​ว่า “คุณ​นั่น​แหละ​เป็น​สาวก​ของ​เขา พวก​เรา​เป็น​สาวก​ของ​โมเสส 29  พวก​เรา​รู้​ว่า​พระเจ้า​พูด​กับ​โมเสส แต่​คน​นั้น​มา​จาก​ไหน​พวก​เรา​ไม่​รู้” 30  เขา​ตอบ​พวก​นั้น​ว่า “แปลก​จริง ๆ พวก​คุณ​ไม่​รู้​ว่า​คน​นั้น​มา​จาก​ไหน แต่​เขา​ทำ​ให้​ผม​มอง​เห็น​ได้ 31  พวก​เรา​ก็​รู้​ว่า​พระเจ้า​ไม่​ฟัง​คน​บาป​แน่ ๆ+ แต่​ถ้า​ใคร​เกรง​กลัว​พระเจ้า​และ​ทำ​ตาม​ที่​พระองค์​บอก พระองค์​จะ​ฟัง​คน​นั้น+ 32  แต่​ไหน​แต่​ไร​มา ไม่​เคย​ได้​ยิน​ว่า​มี​ใคร​ทำ​ให้​คน​ที่​ตา​บอด​ตั้ง​แต่​เกิด​มอง​เห็น​ได้ 33  ถ้า​ผู้​ชาย​คน​นั้น​ไม่​ได้​มา​จาก​พระเจ้า เขา​คง​ทำ​อย่าง​นี้​ไม่​ได้​หรอก”+ 34  พวก​นั้น​จึง​พูด​กับ​เขา​ว่า “แก​มัน​บาป​หนา​ตั้ง​แต่​เกิด ยัง​จะ​มี​หน้า​มา​สอน​พวก​เรา​หรือ?” แล้ว​พวก​นั้น​ก็​ไล่​เขา​ออก​ไป+ 35  พระ​เยซู​ได้​ยิน​ว่า​ผู้​ชาย​คน​นั้น​ถูก​ไล่​ออก​มา เมื่อ​ท่าน​เจอ​เขา​จึง​พูด​ว่า “คุณ​มี​ความ​เชื่อ​ใน ‘ลูก​มนุษย์’ ไหม?” 36  เขา​ตอบ​ว่า “ท่าน​คน​นั้น​เป็น​ใคร​ล่ะ​ครับ ผม​จะ​ได้​เชื่อ?” 37  พระ​เยซู​บอก​เขา​ว่า “คุณ​เจอ​ท่าน​แล้ว และ​ตอน​นี้​ท่าน​กำลัง​พูด​กับ​คุณ​อยู่”+ 38  เขา​พูด​ออก​มา​ว่า “นาย​ครับ ผม​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ตัว​ท่าน” แล้ว​เขา​ก็​คำนับ​ท่าน 39  พระ​เยซู​พูด​ว่า “ผม​เข้า​มา​ใน​โลก​เพื่อ​ให้​มี​การ​พิพากษา คน​ที่​ตา​บอด​จะ​มอง​เห็น​ได้+ ส่วน​คน​ที่​มอง​เห็น​จะ​กลาย​เป็น​คน​ตา​บอด”+ 40  พวก​ฟาริสี​ที่​อยู่​แถว​นั้น​ได้​ยิน​ที่​พระ​เยซู​พูด จึง​ถาม​ท่าน​ว่า “นี่​คุณ​หา​ว่า​พวก​เรา​ตา​บอด​ด้วย​หรือ?”+ 41  พระ​เยซู​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “ถ้า​พวก​คุณ​ตา​บอด พวก​คุณ​คง​จะ​ได้​รับ​การ​อภัย​บาป แต่​พวก​คุณ​พูด​ว่า ‘พวก​เรา​มอง​เห็น’ บาป​ของ​พวก​คุณ​จึง​ไม่​ได้​รับ​การ​อภัย”+

เชิงอรรถ

ข้อมูลสำหรับศึกษา

กลางคืน​กำลัง​จะ​มา: บาง​ครั้ง​คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้​คำ​ว่า “กลางคืน” ใน​ความ​หมาย​เป็น​นัย ใน​ข้อ​นี้​พระ​เยซู​ใช้​คำ​นี้​เพื่อ​หมาย​ถึง​ช่วง​เวลา​ที่​ท่าน​จะ​ถูก​พิจารณา​คดี ถูก​ประหาร และ​ตาย ซึ่ง​ตอน​นั้น​ท่าน​ไม่​สามารถ​ทำ​งาน​ของ​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ได้—โยบ 10:21, 22; ปญจ 9:10; เทียบ​กับข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ลก 22:53

น้ำลาย: คัมภีร์​ไบเบิล​พูด​ถึง 3 เหตุ​การณ์​ที่​พระ​เยซู​ใช้​น้ำลาย​ตอน​ที่​รักษา​โรค​อย่าง​อัศจรรย์ (มก 7:31-37; 8:22-26; ยน 9:1-7) ปกติ​แล้ว​ชาว​บ้าน​ใน​สมัย​นั้น​ใช้​น้ำลาย​เพื่อ​รักษา​โรค​แบบ​พื้น​บ้าน แต่​การ​อัศจรรย์​ของ​พระ​เยซู​เกิด​จาก​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า ดัง​นั้น น้ำลาย​ของ​พระ​เยซู​ไม่​ได้​ช่วย​ให้​หาย​โรค ท่าน​บอก​ผู้​ชาย​ที่​ตา​บอด​ตั้ง​แต่​เกิด​ว่า “ไป​ล้าง​โคลน​ออก​ที่​สระ​สิโลอัม​เถอะ” แล้ว​หลัง​จาก​นั้น​เขา​ถึง​จะ​มอง​เห็น (ยน 9:7) นี่​ต้อง​เป็น​การ​ทดสอบ​ความ​เชื่อ​ของ​ผู้​ชาย​คน​นี้​แน่​ ๆ เหมือน​ที่​นาอามาน​ต้อง​ไป​จุ่ม​ตัว​ใน​แม่น้ำ​จอร์แดน​เขา​ถึง​จะ​หาย​จาก​โรค​เรื้อน—2พก 5:10-14

สระ​สิโลอัม: มี​การ​พบ​ซาก​สระ​น้ำ​แห่ง​หนึ่ง​ที่​สร้าง​ใน​ศตวรรษ​แรก​ทาง​ทิศ​ใต้​ของ​ภูเขา​ที่​วิหาร​ตั้ง​อยู่ เชื่อ​กัน​ว่า​น่า​จะ​เป็น​สระ​สิโลอัม ซาก​นี้​ตั้ง​อยู่​ตรง​ฐาน​ของ​เนิน​เขา​ที่​เมือง​เก่า​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ครั้ง​แรก ใกล้​กับ​จุด​ที่​หุบเขา​ไท​โร​พี​โอน​ตัด​กับ​หุบเขา​ขิดโรน (ดูภาค​ผนวก ข​12 ) ชื่อ​สิโลอัม​เป็น​ชื่อ​ภาษา​กรีก​ซึ่ง​ตรง​กับ​ชื่อ​ฮีบรู “ชิโลอาห์” ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คำ​กริยา​ฮีบรู ชาลัค ซึ่ง​แปล​ว่า “ส่ง​ออก​ไป” ยอห์น​จึง​แปล​ชื่อ​สิโลอัม​ว่า​พุ่ง​ออก​มา และ​ที่ อสย 8:6 บอก​ว่า​ชิโลอาห์​เป็น​ทาง​หรือ​คลอง​ที่​ส่ง​น้ำ​ไป​ทั่ว​กรุง​เยรูซาเล็ม​และ​ใน​ข้อ​นี้​ฉบับ​เซปตัวจินต์ ​ใช้​ชื่อ​กรีก​ว่า​สิโลอัม น้ำ​ใน​สระ​สิโลอัม​มา​จาก​น้ำพุ​กีโฮน​ซึ่ง​มี​น้ำ​พุ่ง​ขึ้น​มา​เป็น​ระยะ​ ๆ ชื่อ​สิโลอัม​อาจ​มา​จาก​ลักษณะ​การ​พุ่ง​ของ​น้ำ​แบบ​นี้

เขา​โต​แล้ว: หรือ “เขา​โต​พอ​แล้ว” สำนวน​นี้​อาจ​หมาย​ถึง​คน​ที่​มี​อายุ​มาก​พอ​ที่​จะ​เป็น​ทหาร​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส ซึ่ง​ก็​คือ​มี​อายุ 20 ปี (กดว 1:3) นี่​สอดคล้อง​กับ​ข้อ​คัมภีร์​ที่​เรียก​เขา​ว่า “ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง” (ยน 9:1) ไม่​ใช่​เด็ก นอก​จาก​นั้น เขา​ยัง​เคย​เป็น​ขอ​ทาน​ด้วย (ยน 9:8) บาง​คน​มอง​ว่า​สำนวน​นี้​หมาย​ถึง​คน​ที่​บรรลุ​นิติ​ภาวะ​แล้ว​ตาม​มุม​มอง​ของ​สังคม​ชาว​ยิว ซึ่ง​ก็​คือ​มี​อายุ 13 ปี

ถูก​ไล่​ออก​จาก​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว: หรือ “ถูก​ขับ​ไล่, ถูก​ห้าม​ไม่​ให้​เข้า​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว” มี​การ​ใช้​คำ​คุณศัพท์​กรีก อาพอสูนาโกกอส แค่​ใน​ข้อ​นี้​และ​ที่ ยน 12:42 และ 16:2 คน​ที่​ถูก​ไล่​ออก​จาก​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​จะ​ถูก​ดูหมิ่น​เหยียด​หยาม​และ​ถูก​สังคม​รังเกียจ ใคร​ที่​ถูก​ตัด​ขาด​แบบ​นี้​คง​จะ​ลำบาก​และ​ยาก​จน​มาก ปกติ​แล้ว​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​เป็น​ที่​ที่​ใช้​สำหรับ​การ​เรียน​รู้​เรื่อง​พระเจ้า แต่​บาง​ครั้ง​ก็​ใช้​เป็น​ศาล​ท้องถิ่น​ด้วย ศาล​เหล่า​นี้​มี​อำนาจ​ตัดสิน​ลง​โทษ​โดย​การ​เฆี่ยน​และ​ขับ​ไล่​ออก​จาก​ชุมชน—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 10:17

บอก​ความ​จริง​มา​ต่อ​หน้า​พระเจ้า: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ให้​เกียรติ​พระเจ้า​เถอะ” มี​การ​ใช้​สำนวน​นี้​เพื่อ​ให้​ใคร​คน​หนึ่ง​พูด​ความ​จริง​ออก​มา ความ​หมาย​ของ​สำนวน​นี้​จริง​ ๆ ​แล้ว​ก็​คือ “จง​แสดง​ความ​นับถือ​พระเจ้า​โดย​บอก​ความ​จริง​มา”—เทียบ​กับ ยชว 7:19

คำนับ: หรือ “ทำ​ความ​เคารพ, หมอบ​ลง” เมื่อ​ใช้​คำ​กริยา​กรีก พะรอสคูเนะโอ กับ​พระ​หรือ​เทพเจ้า ก็​จะ​แปล​คำ​นี้​ว่า “นมัสการ” (มธ 4:10; ลก 4:8) แต่​ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้ ผู้​ชาย​ตา​บอด​ตั้ง​แต่​เกิด​ที่​พระ​เยซู​รักษา​ให้​หาย​ได้​ทำ​ความ​เคารพ​ท่าน​เพราะ​เขา​ยอม​รับ​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ตัว​แทน​ของ​พระเจ้า เขา​ไม่​ได้​คิด​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระเจ้า​หรือ​เทพเจ้า แต่​เป็น “ลูก​มนุษย์” หรือ​เมสสิยาห์​ที่​ได้​รับ​อำนาจ​จาก​พระเจ้า​ตาม​ที่​พยากรณ์​ไว้ (ยน 9:35) เมื่อ​เขา​ก้ม​ลง​คำนับ​พระ​เยซู เขา​ก็​ทำ​คล้าย​ ๆ ​กับ​ผู้​คน​ใน​สมัย​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​ที่​คำนับ​หรือ​ทำ​ความ​เคารพ​เมื่อ​พวก​เขา​เจอ​ผู้​พยากรณ์ กษัตริย์ หรือ​คน​อื่น​ ๆ ​ที่​เป็น​ตัว​แทน​ของ​พระเจ้า (1​ซม 25:23, 24; 2​ซม 14:4-7; 1​พก 1:16; 2​พก 4:36, 37) หลาย​ครั้ง​ผู้​คน​จะ​แสดง​ความ​เคารพ​หรือ​คำนับ​พระ​เยซู เพื่อ​ขอบคุณ​ที่​พวก​เขา​ได้​เห็น​การ​เปิด​เผย​จาก​พระเจ้า​หรือ​ได้​เห็น​ว่า​พระเจ้า​เมตตา​พวก​เขา—มธ 14:32, 33; 28:5-10, 16-18; ลก 24:50-52; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 2:2; 8:2; 14:33; 15:25 ด้วย

วีดีโอและรูปภาพ

สระ​สิโลอัม
สระ​สิโลอัม

เคย​เชื่อ​กัน​ว่า​ที่​ตั้ง​ของ​สระ​สิโลอัม​อยู่​ที่​สระ​เล็ก​ ๆ ​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​ที่​มี​ชื่อ​ว่า​เบอร์​เก็​ต ซิลวา​น อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใน​ปี 2004 มี​การ​พบ​ซาก​สระ​ที่​ใหญ่​กว่า​มาก​ห่าง​จาก​สระ​เล็ก​ ๆ ​นั้น​ไป​ทาง​ตะวัน​ออก​เฉียง​ใต้​ไม่​ถึง 100 เมตร และ​ตอน​ที่​มี​การ​ขุด​ซาก​สระ​นี้​ก็​พบ​เหรียญ​ต่าง​ ๆ ​ที่​ทำ​ขึ้น​ช่วง​ที่​ชาว​ยิว​กบฏ​ต่อ​โรม (ระหว่าง​ปี ค.ศ. 66-70) ซึ่ง​เป็น​หลักฐาน​ที่​แสดง​ว่า​มี​การ​ใช้​สระ​นี้​จน​ถึง​ตอน​ที่​กองทัพ​โรมัน​มา​ทำลาย​กรุง​เยรูซาเล็ม ตอน​นี้​ผู้​คน​จึง​เชื่อ​ว่า​สระ​ที่​ใหญ่​กว่า​คือ​สระ​สิโลอัม​ที่​พูด​ถึง​ใน ยน 9:7 และ​อย่าง​ที่​เห็น​ใน​ภาพ สระ​นี้​มี​บันได​และ​มี​ชาน​พัก​เป็น​ช่วง​ ๆ ​ลง​ไป​จน​ถึง​ก้น​สระ (ตอน​นี้​มี​แต่​ดิน​และ​ต้น​ไม้) ซึ่ง​ช่วย​ให้​ผู้​คน​เดิน​ลง​ไป​ได้​ไม่​ว่า​ระดับ​น้ำ​จะ​สูง​ขนาด​ไหน​ก็​ตาม

1. สระ​สิโลอัม

2. ภูเขา​ที่​วิหาร​ตั้ง​อยู่